กว่าหนึ่งร้อยปีก่อน ไซออนคือขุนศึกผู้เหี้ยมโหดและเกรียงไกรที่พร้อมสังหารไม่ว่าหน้าไหนที่บังอาจขวางทางเขา ทั้งหมู่มิตรและศัตรูพากันเกรงกลัวเขาเกินใคร ไซออนคือนักรบรายสุดท้ายที่ยึดมั่นในเกียรติภูมิแห่งความหาญกล้าซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ถือปฏิบัติในน็อกซัสมานับตั้งแต่วันแรกเริ่มก่อตั้ง ไซออนเคยให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของเขาว่าจะต่อสู้โดยไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียวและจะยอมตายอย่างภาคภูมิเยี่ยงนักรบเมื่อถึงเวลาของเขามาถึง
แม้จะไม่ถนัดด้านการใช้ความแยบยลหรือกลยุทธ์อันเฉลียวฉลาด แต่วิถีอันเหี้ยมโหดของไซออนก็ได้ผลดีเสมอและช่วยให้น็อกซัสชนะศึกมากมายอย่างไร้ความปรานี นี่คือยุคที่จักรวรรดิน็อกซัสเรืองอำนาจมากที่สุดในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมา ดังนั้น เหล่านายพลระดับสูงจึงรู้สึกประหลาดใจเมื่อประเทศตะวันตกแห่งหนึ่งลุกขึ้นมาต่อต้านและตอบโต้การรุกรานของพวกเขาเป็นรายแรก ชาวเดมาเซียเหล่านี้ัขับไล่กองทัพของน็อกซัสไปทางตะวันออกและตีต้อนพวกเขาจนไปอยู่หลังกำแพงแห่งฮวาร์ดิซ ไซออนซึ่งบัญชาการรบอยู่บนเทือกเขาอาร์เจนต์ได้เบนหน้ามุ่งสู่ทางใต้ด้วยความกราดเกรี้ยว
เมื่อเขามาถึงเมืองแห่งนี้ ก็พบกองกำลังเดมาเซียที่อยู่ไกลลิบ พวกนั้นไม่ได้หมายมุ่งที่จะยึดครองฮวาร์ดิซแต่อย่างใด และกำลังจะเดินทางกลับบ้านกลับเมืองหลังจากขับไล่กองทัพน็อกเซียให้พ้นจากดินแดนเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันได้สำเร็จ ไซออนสั่งการให้กองทหารเตรียมพร้อมและหมายใจมั่นว่าจะต้องลงทัณฑ์ดินแดนเหล่านี้ที่บังอาจแข็งข้อ ผู้บัญชาการกองทัพน็อกซัสซึ่งอยู่ที่ี่ฮวาร์ดิซนั้นพ่ายแพ้ศัตรูมาหลายครั้งหลายหน เขาจึงพึงใจกับการเลือกหลบภัยอยู่หลังกำแพงเมืองและปล่อยให้ฝ่ายศัตรูจากไปโดยปราศจากการเสียเลือดเนื้อ
และแล้วไซออนพร้อมกับเหล่านักรบของเขาก็เข้ายึดดินแดนซึ่งตอนนี้กลายเป็นทะเลสีเลือดสำเร็จ เขาเหวี่ยงผู้บัญชาการกองทัพลงมาจากกำแพงเมืองด้วยความเกรี้ยวกราดและออกคำสั่งให้เดินหน้าโจมตี
ไซออนตะลุยฝ่าแนวทหารของกองทัพเดมาเซียและบุกตามล่ากษัตริย์จาร์วานที่ 1 ซึ่งเป็นผู้นำกองทัพ ในขณะที่กองรบของไซออนตะลุยสู้ร่วมกับเขาโดยไม่กลัวตาย เหล่าทหารที่ซุ่มหลบอยู่ในฮวาร์ดิซกลับแสดงความอ่อนแอ พวกเขาถอดใจและถอยกลับไปที่เมือง โดยปล่อยให้ไซออนและขุนศึกคู่ใจจำนวนเพียงหยิบมือของเขาตกอยู่ในวงล้อม ลูกทัพถูกฆ่าตายไปทีละคน แต่ไซออนยังเดินหน้าต่อไป
แม้จะเหลือเขาเพียงคนเดียวในสภาพที่มีดาบและศรหน้าไม้นับสิบๆ ทิ่มแทงทั่วร่าง แต่ในที่สุด เขาก็ไปถึงตัวจาร์วาน การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด และราชาแห่งเดมาเซียก็เป็นฝ่ายที่ลงมือปิดฉากได้ ขวานหลุดจากมือของไซออน เขารวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายและใช้มือข้างหนึ่งกระชากมงกุฎออกจากศีรษะของจาร์วาน ส่วนมืออีกข้างหนึ่งกำคอของจาร์วานไว้และบีบแน่น องครักษ์ของจาร์วานกระหน่ำแทงไซออนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เขาก็ไม่ยอมคลายมือข้างนั้น
จนเมื่อราชาฝ่ายอริสิ้นชีพแล้ว ไซออนจึงค่อยยอมให้ความตายเข้ามาครอบงำ
ร่างของไซออนพร้อมด้วยมงกุฎของกษัตริย์เดมาเซียซึ่งยังคงถูกกำไว้มั่นในมือของเขาถูกกู้ขึ้นมาและนำกลับไปไว้ที่ปราการไร้พ่ายเพื่อเป็นการเฉลิมเกียรติ ดินแดนน็อกซัสไว้อาลัยให้การจากไปของไซออน ศพของเขาถูกฝังไว้ในอนุสาวรีย์สูงตระหง่านที่สร้างขึ้นเพื่อจารึกเกียรติภูมิของเขาไปชั่วกาล
หลุมศพของไซออนถูกเปิดอีกครั้งหลังผ่านไปกว่าครึ่งศตวรรษ
ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของน็อกซัสเริ่มลดน้อยถอยลง และโบแรม ดาร์กวิล ผู้เป็นแม่ทัพสูงสุดแห่งจักรวรรดิก็พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อกอบกู้ความรุ่งโรจน์ให้กลับคืนมาอีกครั้ง ภาคีลึกลับที่เป็นที่รู้จักในชื่อกุหลาบดำและเป็นพันธมิตรของดาร์กวิลได้ปลุกชีพผู้กล้าที่ล่วงลับไปแสนนานขึ้นมาอีกครั้งโดยใช้เวทมนตร์ต้องห้ามและนำเขาไปมอบให้แม่ทัพสูงสุด
ด้วยความที่เขาไม่อาจปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้ได้ ไซออนจึงกลับมามีชีวิตอีกครั้งพร้อมกับความกระหายเลือดที่รุนแรงผิดมนุษย์มนาและความด้านชาทนทานต่อความเจ็บปวด
เขาบุกโจมตีศัตรูของน็อกซัสแบบบ้าดีเดือดและทำลายล้างทุกคนทุกอย่างที่ขวางหน้า ชัยชนะจากน้ำมือของไซออนนั้นต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงมหาศาลยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่เขายังไม่ตายเสียอีก เขาคลั่งจนเกินควบคุมและไล่ฆ่าทั้งมิตรและศัตรูโดยไม่รู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย ผู้ที่ถูกบังคับให้ต่อสู้เคียงข้างเขาก็เริ่มหนีหายละทิ้งหน้าที่ไป จนกระทั่งในท้ายที่สุด ดาร์กวิลก็สั่งการให้นำไซออนกลับไปฝังที่หลุมศพอีกครั้ง
นักรบหลายร้อยรายต้องตายไปในระหว่างที่พยายามช่วยกันจับตัวเขา ในที่สุดเขาก็ถูกล่ามโซ่และลากตัวกลับไปที่ปราการไร้พ่าย เมื่อไม่ได้เข่นฆ่าผู้ใด เวทมนตร์โลหิตที่เคยหล่อเลี้ยงเขาก็เข้าครอบงำจิตใจของเขาให้มีแต่ความกราดเกรี้ยวอย่างรวดเร็ว เสียงคำรามของเขาถูกสะกดให้เงียบลงไปได้ในท้ายที่สุดเมื่อเขาถูกกักขังไว้ในรูปปั้นมหึมาของตนเอง
เขาถูกจองจำอยู่ที่นั่นนานหลายปีในสภาพที่ก้ำกึ่งระหว่างเป็นกับตาย หลุมศพของเขาถูกเปิดออกอีกครั้งในยุคการปกครองของจักรวรรดิที่ต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ดาร์กวิลถูกนายพลเจริโก้ สเวนกำจัดและชิงอำนาจ แต่ไซออนไม่ได้สนใจเรื่องนั้นและยังคงคำรามกระชากเครื่องพันธนาการที่มัดกายเขาไว้ด้วยความบ้าคลั่งซึ่งมีเพียงการสู้รบเท่านั้นที่จะช่วยบรรเทาได้
เขาถูกล่ามโซ่ไว้ในลูกกรงเหล็กและกลับไปที่ฮวาร์ดิซซึ่งได้ปลดแอกกลายเป็นอิสระจากน็อกซัสในยุคที่ดาร์กวิลปกครอง ไซออนกลายเป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ที่แม่ทัพสูงสุดคนใหม่นำมาใช้กับพวกกบฏ
เขาห้ำหั่นประหารผู้ที่ปกป้องฮวาร์ดิซและทำลายเมืองนั้นจนพินาศ เสียงหัวเราะของเขาดังลั่นขณะที่บุกทลายหอคอยต่างๆ ให้พังด้วยมือเปล่า ดินแดนอื่นๆ ที่แปรพักตร์จากน็อกซัสยอมศิโรราบอย่างรวดเร็วด้วยกลัวว่าปีศาจร่างยักษ์จะถูกปล่อยให้มาทำลายล้างพวกเขาเป็นรายต่อไป
ในตอนนี้ ไซออนยินดีต้อนรับแสงอาทิตย์อันร้อนแรงสาดเข้ามาในหลุมศพของเขาที่เปิดไว้… เพราะมันมาพร้อมกับโอกาสที่จะได้ปลดโซ่ตรวนและทำตามสัญชาตญาณกระหายเลือด เพื่อดับเสียงกรีดร้องแห่งความคลุ้มคลั่งที่ดังกลบความคิดที่จะหยุดพัก
ไซออนจำได้เพียงเศษเสี้ยวของชีวิตก่อนตาย และแทบจะจำช่วงเวลาหลังจากนั้นไม่ได้เลย แต่ความจริงข้อหนึ่งที่ยังแจ่มชัดเหมือนเมื่อวันที่เขาสิ้นลมคือ โลกจะต้องครั่นคร้ามหวั่นเกรงเขา ไม่ว่าจะทั้งในสมัยก่อนหรือตอนนี้